เป็นที่ทราบกันดีว่าลิ้นจี่มีถิ่นกำเนิดอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน
จะปลูกกันมากทางภาคเหนือตอนบน ลิ้นจี่เป็นผลไม้ทางการเกษตร ที่มีราคาค่อนข้างแพง
ปลูกง่าย มีโรคและแมลงน้อย ที่สำคัญคือ ลิ้นจี่ มีรสชาติหวาน หอม อร่อย
และมีกลิ่นเฉพาะตัวแปลกกว่าผลไม้ชนิดอื่นๆ
ทำให้เป็นที่นิยมบริโภคทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ
โดยเฉพาะลิ้นจี่จากจังหวัดเชียงรายและจังหวัดเชียงใหม่ เป็นแหล่งที่ปลูกกันมากที่สุด
เกษตรกรสามารถส่งออกลิ้งจี่นำรายได้เข้าประเทศหลายล้านบาทเลยทีเดียว
พันธุ์ลิ้นจี่ ที่ปลูกในประเทศไทยนั้นมีอยู่มากมายหลายพันธุ์
และที่นิยมปลูกกันมากมีดังนี้
-พันธุ์ฮงฮวย เป็นพันธุ์ที่ปลูกมากที่สุดในภาคเหนือ
เพราะให้ผลผลิตดีสม่ำเสมอ ผลดก ผิวเปลือกขรุขระมีตุ่มหนาม
สีผลเมื่อแก่เต็มที่จะเป็นสีชมพูหรือชมพูปนแดง เนื้อมีสีขาวขุ่นและนิ่ม
เนื้อหนาปานกลางเนื้อแห้ง กลิ่นหอม รสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย
เมล็ดโตสีน้ำตาลแก่ เป็นพันธุ์ที่เหมาะกับการรับประทานสดๆและบรรจุกระป๋อง
-พันธุ์โอวเฮี๊ยะ เป็นพันธุ์ที่ชอบอากาศหนาว และความชื้นสูง ทรงผลคล้ายรูปหัวใจ
ป้อม มีผลกว้างยกสูงทั้งสองข้าง ผลแหลม เปลือกขรุขระ เปลือกนิ่ม
ผิวผลสีแดงค่อนข้างคล้ำ เนื้อสีขาว เนื้อนิ่ม ฉ่ำน้ำ กลิ่นหอม รสหวาน
-พันธุ์จักรพรรดิ เป็นพันธุ์หนัก รูปผลเป็นรูปหัวใจ ผลมีขนาดใหญ่
ปลายผลป้าน เปลือกขรุขระ เปลือกหนา ผิวเปลือกสีแดง เนื้อสีขาวขุ่น นิ่ม
เนื้อฉ่ำน้ำ รสหวานจัด
-พันธุ์ค่อม ปลูกมากในจังหวัดสมุทรสงคราม
เป็นพันธุ์ที่ออกดอกติดผลง่าย ผลมีใหญ่ ร่องหนามมีสีเหลืองอมเขียว เปลือกกรอบบาง
เปลือกสีแดงอมชมพูแก่ถึงแดงอมม่วง เนื้อมีสีขาวขุ่น เนื้อหนา นิ่ม แห้ง มีกลิ่นหอม
รสชาติหวานจัดและปนฝาดเล็กน้อย
การขยายพันธุ์
วิธีการขยายพันธุ์ที่แพร่หลายในปัจจุบันคือการตอนกิ่งเพราะสามารถทำได้ง่าย
งอกรากเร็ว ต้นไม่กลายพันธุ์ ใช้เวลาน้อยให้ผลเร็ว ทรงต้นเป็นพุ่มงามไม่สูง
ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
-ควรเลือกต้นแม่ที่ให้ผลผลิตแล้ว ให้ผลดก ผลผลิตคุณภาพดี รสชาติดี
สมบูรณ์แข็งแรง ปราศจากโรคและแมลงรบกวน
-ควรเลือกกิ่งที่ไม่อ่อนหรือแก่เกินไป มีอายุ 1 ปี เป็นกิ่งกระโดง
ตั้งตรงหรือเอียงเล็กน้อย ยาว 50-70 เซนติเมตร
-ทำการควั่นกิ่ง 2 รอย ให้รอยควั่นด้านบนอยู่ใต้ข้อของกิ่งเล็กน้อย
ส่วนรอยควั่นด้านล่างให้ห่างจากรอยควั่นด้านบนเท่ากับความยาวของเส้นรอบวงของกิ่ง
-ใช้ปลายมีดกรีดเปลือกระหว่างรอยควั่นทั้งสองตามความยาวของกิ่งและลอกเปลือกออก
ขูดเอาเยื่อออกให้หมด
-นำถุงขุยมะพร้าวมาผ่าตรงกลาง แหวกขุยมะพร้าวออก
นำไปหุ้มรอยควั่นให้เลยรอยควั่น 1-2 นิ้ว ใช้เชือกมัดหัวท้ายให้แน่น
-หลังจากนั้น 30-45 วัน กิ่งตอนจะงอกออกมา
แต่ควรตัดกิ่งตอนเมื่อรากที่งอกเป็นสีน้ำตาลและมีรากขาวแตกออกมา
และต้องมีรากเยอะพอสมควรด้วย
-นำกิ่งตอนไปแช่น้ำให้ท่วมตุ้มตอน 1-2 ชั่วโมง
แล้วนำกิ่งตอนไปชำในถุงพลาสติก
-นำกิ่งตอนที่ชำเสร็จแล้วไปวางไว้ในที่ร่มรำไรหรือในเรือนเพาะชำรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ
หลังจากชำกิ่งไว้ประมาณ 1 เดือน ก็สามารถนำไปปลูกในแปลงได้
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
ดินที่เหมาะต่อการปลูกลิ้นจี่คือดินร่วนและดินร่วนปนทราย ดินต้องระบายน้ำได้ดี
ลิ้นจี่เป็นพืชที่ชอบน้ำแต่ไม่ชอบน้ำขังแฉะ
การปลูก ในปัจจุบันนิยมใช้ต้นพันธุ์ที่ได้จากการตอนกิ่ง
ขั้นตอนในการปลูก ขุดหลุมลึกประมาณ 1 หน้าจอบ ถอดภาชนะชำต้นพันธุ์ออก
อย่าให้ดินแตกและรากขาด วางต้นพันธุ์กลางหลุม กลบดินบริเวณโคนต้น กดดินให้แน่น
หาไม้ปักใช้เชือกผูกติดกับต้นลิ้นจี่ เพื่อป้องกันลมพัด คลุมบริเวณโคนด้วยฟางแห้ง
รดน้ำให้ชุ่ม ในระยะแรกทำร่มเงาเพื่อช่วยพรางแสงแดดด้วย
การให้น้ำ ลิ้นจี่เป็นพืชที่ชอบน้ำแต่ไม่ชอบน้ำขังแฉะ
ระยะแรกควรให้น้ำสม่ำเสมอ เมื่อต้นลิ้นจี่ตั้งตัวได้แล้วสามารถเว้นเป็น 1-3
วันต่อครั้ง เมื่อต้นลิ้นจี่อายุได้ 1-3 ปี จะให้น้ำประมาณ 10-15 วันต่อครั้ง
การใส่ปุ๋ย
เนื่องจากปุ๋ยเป็นสิ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการติดดอกออกผลของลิ้นจี่
ดังนั้นการปรับปรุงดินโดยการใส่ปุ๋ยเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง โดยปุ๋ยที่ใส่เป็นสูตร
15-15-15 ก่อนออกดอกควรใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 8-24-24 ระยะติดผลควรใส่ปุ๋ยสูตร 13-13-21
การตัดแต่งกิ่ง การตัดแต่งกิ่งลิ้นจี่มีความสำคัญ
เพราะจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตด้วย ทำให้ต้นลิ้นจี่มีความสมบูรณ์ แข็งแรง
ออกดอกติดผลดี และผลผลิตมีคุณภาพ การห่อผล มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการทำลายจากแมลงศัตรู
และเพื่อช่วยเพิ่มคุณภาพผลผลิตให้สูงขึ้น เช่นสีผลสวยงาม ผิวผลสะอาด
ทำให้จำหน่ายได้ราคาดีการห่อผลลิ้นจี่ควรทำเมื่อผลเริ่มเปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีแดงเรื่อๆเริ่มจะแก่
หรือก่อนเก็บเกี่ยว 20-25 วัน
โดยใช้ถุงกระดาษหรือถุงพลาสติกที่ตัดปลายถุงไปห่อทั้งช่อ
ผูกปากถุงกับโคนก้านช่อให้แน่น โรคและแมลงศัตรู โรคที่พบเข้าทำลายลิ้นจี่ ได้แก่ โรคใบจุด
โรคพุ่มไม้กวาด โรคราดำ โรครากเน่า เป็นต้น ส่วนเมลงศัตรู ได้แก่ หนอนเจาะขั้วผล
หนอนชอนใบ หนอนเจาะกิ่ง ไรกำมะหยี่ลิ้นจี่ เป็นต้นการเก็บเกี่ยว เมื่อลิ้นจี่ถึงอายุเก็บเกี่ยว
ผลจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มหรือแดงอมชมพู
การตัดสินใจเก็บเกี่ยวใช้การสังเกตจากสีของผิวเปลือกเป็นหลัก การเก็บเกี่ยวลิ้นจี่ควรเก็บหลังจากน้ำค้างที่ติดอยู่บนผลแห้งหมดแล้วและควรเก็บเกี่ยวในช่วงที่แสงแดดไม่จัด
โดยใช้บันใดหรือพะองพาดไปบนกิ่งแล้วปืนขึ้นไปตัดช่อผลใส่แข่ง
ถ้าช่ออยู่ไกลก็จะใช้ตะขอดึงกิ่งแล้วโน้มมาตัดช่อผล ใช้กรรไกรตัดช่อผล
ให้ช่อผลยาวประมาณ 1 ฟุตจากปลายช่อ ควรเก็บเกี่ยวแบบทยอยเก็บผลที่แก่พอประมาณ 2-3
วันต่อครั้ง อย่าปล่อยให้ผลแก่จัดเกินไป เพราะจะทำให้คุณภาพด้อยลงไปได้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น